ยินดีต้อนรับสู่ ฟอร์เอฟเวอร์ แอนด์ อะเดย์ เทคโนโลยี 

  • จ-ศ: 8.00am to 5.00pm
Search

การบำรุงรักษาเครื่องจักร (Maintenance machine)

Maintenance machine

การบำรุงรักษาเครื่องจักรเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้งบประมาณการบำรุงรักษาให้เหมาะสมกับการใช้งานของเครื่องจักรนั้น ๆ การบำรุงรักษาเครื่องจักรมีหลายระดับตั้งแต่การดูแลรักษาประจำวันจนถึงการซ่อมบำรุงเมื่อเครื่องจักรมีปัญหาหรือชำรุด ดังนั้นการบำรุงรักษาเครื่องจักรมีประโยชน์หลายด้าน 

ประเภทของการบำรุงเครื่องจักร

งานบำรุงรักษาสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท 
  • Breakdown Maintenance ( การบำรุงรักษาโดยการซ่อมแซมส่วนที่เสีย )  
  • Planned/Preventive maintenance ( การบำรุงรักษาตามการวางแผน )  
  • Predictive maintenance ( การบำรุงรักษาโดยการคาดการไว้ ) 
  • Proactive maintenance ( แก้ที่สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เป็นวิธีสมัยใหม่ )

Breakdown Maintenance

Breakdown Maintenance​ : หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า การบำรุงรักษาโดยการซ่อมแซมเมื่อเครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีการชำรุดหรือเสียหาย เป็นวิธีการบำรุงรักษาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาทันทีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าหรือกำหนดการที่เป็นทางการ เมื่อมีเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เกิดปัญหา การบำรุงรักษาแบบ breakdown maintenance จะทำการซ่อมแซมโดยทันทีเพื่อที่จะทำให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์กลับมาทำงานได้ในระยะเวลาสั้น ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมเพียงพอในขณะที่เครื่องยังอยู่ในสภาพการทำงาน

ข้อดีของการบำรุงรักษาแบบ breakdown maintenance คือ:

    1. การแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว: เนื่องจากการทำงานซ่อมแซมเกิดขึ้นทันทีหลังจากเกิดเหตุการณ์ จึงช่วยลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานลง
    2. ลดความเสียหาย: การแก้ไขปัญหาในขณะที่เครื่องยังไม่เสียหายหรือเสียสภาพมากเกินไปอาจช่วยลดความเสียหายในระยะยาวได้

Preventive Maintenance

Preventive maintenance คือ กระบวนการในการบำรุงรักษาที่ดูแลและการซ่อมบำรุงที่เป็นระยะเวลาตามที่ได้กำหนดไว้ เพื่อลดความเสียหายหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างและรักษาสภาพให้กับเครื่องจักรเพื่อลดความเสียหายจากการสูญเสียการทำงานอันไม่คาดคิด และการลดความเสียหายจากการชำรุดหรือการสึกหรอ

บำรุงรักษาแบบนี้จะทำให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีโอกาสที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซ่อมบำรุงซึ่งเกิดจากปัญหาที่ไม่คาดคิด

ข้อดีของ preventive maintenance ได้แก่:
    1. ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา: การตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหรือความเสียหาย
    2. เพิ่มประสิทธิภาพ: เครื่องจักรที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอมักจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

Predictive maintenance

Predictive maintenance (การบำรุงรักษาแบบ Predictive) คือ กระบวนการที่ใช้การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อทำนายเวลาที่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์จะมีการเสียหายหรือเกิดปัญหา โดยการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เซ็นเซอร์ ระบบสารสนเทศ และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) เพื่อตรวจจับสัญญาณหรือระบบการทำงานของเครื่องจักรเพื่อทำนายการเสียหายหรือปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนกิจกรรมการบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการหยุดชะงักของเครื่องจักรลงและประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง

ข้อดีของ predictive maintenance ได้แก่:
    1. การวางแผนการบำรุงรักษาที่เหมาะสม: การทำนายเวลาที่เครื่องจักรจะเสียหายช่วยให้สามารถวางแผนการบำรุงรักษาล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดชะงักของเครื่องจักร
    2. ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: การทำการบำรุงรักษาในขณะที่ปัญหายังไม่รุนแรงช่วยลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง

Proactive maintenance

Proactive maintenance (การบำรุงรักษาแบบ Proactive) เป็นกลยุทธ์ในการบำรุงรักษาที่มุ่งเน้นไปที่การเริ่มต้นป้องกันปัญหาหรือความเสียหายก่อนที่จะเกิดขึ้น โดยไม่รอให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์เสียหายก่อนจะมีการแก้ไข และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการนี้ใช้ข้อมูลเชิงพยากรณ์และข้อมูลประวัติการทำงานของเครื่องจักรเพื่อหาวิธีการป้องกันที่เหมาะสม

ความแตกต่างระหว่าง proactive maintenance กับ predictive maintenance คือ proactive maintenance มุ่งเน้นการดำเนินการที่เป็นการป้องกันอย่างเป็นเชิงรุก ในขณะที่ predictive maintenance มุ่งเน้นการทำนายการเสียหายและการแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหา

ข้อดีของ proactive maintenance ได้แก่:
    1. การลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา: การทำการบำรุงรักษาแบบ proactive ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหรือความเสียหายโดยการทำการเริ่มต้นในขณะที่เครื่องจักรยังมีสภาพดี
    2. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การป้องกันปัญหาที่เป็นไปได้ล่วงหน้าช่วยให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีการหยุดชะงัก

เครื่องตรวจสอบรอยรั่ว Acoustic Imager | Cry Sound CRY2624 เป็นเครื่องมือที่สามารถ กันระเบิดได้ เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรม ปิโตเคมี และ อุตสาหกรรม ที่ใช้งานหนัก

การวิเคราะห์ การรั่วไหล

  เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันการวัดการรั่วไหล กล้องจะแสดงปริมาณการรั่วไหลและการสูญเสียตลอดจน ระดับการสูญเสียอย่างต่อเนื่อง

Analytics and reports

การประมวลผลตามส่งข้อมูล ในรูปแบบ เทมเพลตและการบันทึกข้อมูล data, waveforms, spectra, spectrograms ได้รับการสนับสนุนโดยซอฟต์แวร์เครื่องมือวิเคราะห์รายงาน CRYSOUND ซึ่งสร้างโปรโตคอลที่แก้ไขได้ตามมาตรฐาน ISO 50001 ในรูปแบบ Excel

Live Motion Amplification®
การวัดการเคลื่อนที่แบบ Pixel to Pixel
การกรองตามความถี่
การแก้ไขปัญหาขั้นสูง

Motion Amplification®
สูงถึง 1400 FPS ในความละเอียดระดับ HD
การวัดการเคลื่อนที่แบบ Pixel to Pixel
ปรับแต่งอุปกรณ์ได้

Live Motion Amplification®
กล้องสามารถทำพร้อมกันได้หลายตัว
การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
การตรวจสอบเหตุการณ์และแจ้งเตือน

Laser shaft alignment AT400

เครื่องมือตั้งศูนย์เพลา 2 แกน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ของความแม่นยำและประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งานด้านการตั้งศูนย์เพลาต่างๆ

      • เพิ่มพลัง และเสริมมาตราฐาน การผลิตและประสิทธิภาพด้วยเซ็นเซอร์ขั้นสูงและการวัดแบบ 2 แกนที่แม่นยำ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
      • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเข้าใจได้ง่าย เพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน พึงพอใจมากยิ่งขึ้น
      • ขอแนะนำเซ็นเซอร์ 2 แกน ที่บางที่สุดในตลาด โดยมีน้ำหนัก 306 กรัม ด้วยช่วงการวัดที่ 20 เมตร ปฏิวัติการใช้งานที่มีความแม่นยำสูง

เซ็นเซอร์เพิ่มการตรวจจับขนาดใหญ่ขนาด : 20×20 มม. และมีความละเอียดสูง 0.001 มม. ทำให้เหมาะสำหรับการตรวจจับตำแหน่งที่แม่นยำและการใช้งานการวัดต่างๆ

ACOEM : Laser shaft alignment AT400

ส่วนหนึ่งของลูกค้าที่ไว้ใจ
Read Our Latest News

News & Articles

การบำรุงรักษาเครื่องจักรเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้งบประมาณการบำรุงรักษาให้เหมาะสม
เครื่องจักรนั้น มีหลายประเภท หลายการใช้งาน ซึ่ง จะแบ่งตามรูปแบบการใช้งานในการทำงานเป็นส่วนใหญ่ เช่น การทำงานไม่ซับซ้อน อาจจะใช้เครื่องจักรที่เป็นรูปแบบ รอก , เชือก, ฟันเฟืองเล็กน้อย เป็นต้น ขยับความซับซ้อนเพิ่มขึ้นมา ก็จะเป็นพวกที่ทำงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์เช่น เครื่องจักรในรูปแบบ PLC , เครื่องจักรประเภทมอเตอร์ , เครื่องจักรประเภทไฮดรอลิค เป็นต้น ตัวอย่างเครื่องจักรในแต่ละประเภท ยกตัวอย่างมา ดังนี้
FOREVER AND A DAY TECHNOLOGY

Product

X